“ไม่คาดหวังความสมบูรณ์แบบจากลูกใน อนาคต “
เราควรสอนให้เขามีความพย าย าม และทำทุกอย่ างด้วยความสามารถอย่ างดีที่สุด อนาคต ไม่จำเป็น
ต้องสมบูรณ์แบบเราล้ มเ ห ลวได้ ผิ ดพ ล าดได้ สิ่งเหล่านี้ จะช่วยให้พวก
เขาได้เรียนรู้ที่จะรับมือกับอุ ปส ร รคในชีวิตได้ดีกว่า
และมีความสุขกว่าเ ด็กที่พย าย ามทำทุกอย่างให้สมบูรณ์แบบ
“รับผิดชอบต่อความรู้สึกของลูก”
พ่อแม่จำนวนมากอย ากให้ลูกมีความสุข ก็จะ
พย าย ามสร้างความสุขให้ลูกด้วยวิธีการต่างๆ นาๆ
แต่ในโลกของความเป็นจริงแล้ว ความสุขหรือความทุ กข์นั้น เป็นความรับผิดชอบของบุคคลนั้นๆ
ดังนั้น เราควรที่จะสอนให้ลูกมีความสามารถในการจัดการอารมณ์ของตัวเอง
และให้พวกเขาเรียนรู้ว่า ความรู้สึกของเราเกิดจากตัวของเราเองไม่ได้ขึ้นอยู่กับคนอื่นแต่อย่ างใด
“ไม่เอาความรู้สึกผิ ด มากำหนดการตัดสินใจที่ถูกต้อง”
การที่เราสอนให้เจาเป็นคนที่มีจิตใจดี
เอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่นั้นเป็นสิ่งที่ดี แต่ก็ไม่ควรมากเกินไป จนลืมความผิดชอบชั่ วดี ยกตัวอย่ าง
เช่น ที่โรงเรียนอาจจะมีเพื่อนที่ไม่ได้อ่านหนังสือมาเพื่อมาสอบ
และขอลอกข้อสอบ ด้วยความรู้สึกผิดของเด็ กว่า เพื่อไม่ให้โดนครูทำโ ท ษ
หรือสอบตกเ ด็ กอาจจะยอมทำผิ ดเ พื่อให้เพื่อนลอกข้อสอบ ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องนั่นเอง
“อย่ าให้ความกลั ว มีผลต่อการตั ดสินใจ”
พ่อแม่มีหน้าที่ต้องปกป้องลูกจากอั นต ราย
ใด ๆ ทั้งปวงแต่เราควรให้เ ด็กได้เรียนรู้ที่จะรับมือกับความกลัวต่างๆด้วย สอนถึงอั นต ร ายที่อาจจะเกิดขึ้น
สอนให้เข้าใจถึงความรู้สึกก ลั ว
และรับรู้มัน ฝึกให้เขาได้รู้จักเผชิญหน้ากับความกลัว อย่าให้ความกลั วมามีผลกับการตัดสินใจในชีวิต
“ฝึกให้เขามีความรับผิ ดชอบ”
ความรับผิ ดชอบเป็นอุปนิสัยที่สำคัญต่อการดำเนินชีวิตให้ประสบความสำเร็จ
ดังนั้น เราควรฝึกให้ลูกมีความรับ
ผิ ดชอบในกิจก ร ร มหรือหน้าที่ของตัวเองตั้งแต่เล็กๆเช่น การต้องแปรงฟั นก่อนเข้านอน
การทำการบ้าน
“อย่ าปกป้องลูกจากความผิ ดหวัง ความเ จ็ บ ป ว ด”
ความผิ ดหวัง ความทุ กข์เป็นเรื่องปกติที่
มนุษย์ทุกคนจะต้องเจอ แน่นอนว่าคนเป็นพ่อแม่ไม่อย ากเห็นลูกของตัวเองต้องผิ ดหวัง
และเ จ็บ ป ว ดหรอก หลายคนพย าย ามปกป้องลูกของตัวเองจากความรู้สึกนี้
ซึ่งไม่เป็นผลดีในระยะยาวของเด็ กคนนั้น ๆ เลย
วิธีที่เหมาะสมคือ ฝึกให้ลูกได้เผชิญความผิดหวัง แต่อยู่ข้างๆ พวกเขา
คอยแนะนำและให้กำลังใจในการจัดการกับความรู้สึกและปัญหาที่เกิดขึ้นข้างๆเขานั่นเอง
“อย่ าให้ลูกเป็นจุดศูนย์กลางของจักรวาล”
การตามใจเขาทุกอย่ าง ยิ่งถ้าบ้านนั้น ๆ มีลูกเพียงคนเดียว บ่อยครั้ง
เด็ กคนนั้นก็มักจะได้ความรักความใส่ใจ จากทุกคนรอบตัว เป็นผู้รับโดยลืมที่จะเรียนรู้เป็นผู้ให้
ซึ่งจะมีผลอย่ างมากเมื่อพวกเขาโตขึ้นมา เมื่อโลกไม่ได้เหมือนที่บ้านอีกต่อไป
การฝึกให้ลูกรู้จักเป็นผู้ให้บ้าง รู้จักที่จะสร้างประโยชน์ให้กับคนอื่นก็ถือเป็นสิ่งที่ดีมากๆ
“ให้อำนาจพวกเขาในการตัดสินใจอย่ างเหมาะสม”
การฝึกให้เด็ กกล้าที่จะตั ดสินใจ โดยการฝึกให้ได้มีโอกาสในการตัดสินใจในสถานการณ์ต่างๆ
จะช่วยให้พวกเขามีความมั่นใจ แต่อย่ างไรก็ตามก็ควรให้พวกเขาได้รับรู้ถึงหน้าที่
และบทบาทของคนในบ้านด้วย เช่น พ่อ แม่ พี่ หรือญาติผู้ใหญ่ที่เขาควรจะแสดงความนับถือ
“ฝึกให้เขาได้เรียนรู้จากความผิ ดพลาด”
ความที่เรารักลูก เราอย ากมั่นใจว่าทุกสิ่งที่ลูกทำจะไม่ทำพล าดเช่น พย าย าม
ตรวจการบ้าน เช็คกระเป๋านักเรียนว่าลูกเอาทุกอย่ างไปโรงเรียนครบมั้ย
แต่เราควรฝึกให้พวกเขาได้เรียนรู้จากความผิ ดพล าดบ้าง เพื่อให้เขาได้พัฒนา
และเรียนรู้วิธีการในการจัดการกับปัญหาได้ด้วยตัวของพวกเขาเอง
“ฝึกให้ลูกมีวินัย แต่ไม่กลั วต่อการถูกล งโ ทษ”
การลงโ ท ษ คือการที่เราทำโ ท ษเขามื่อพวกเขาทำผิด
แต่การฝึกความมีระเบียบวินัย คือ
ฝึกให้พวกเขาสร้างอุปนิสัยที่ดีที่จะมีผลต่อความสำเร็จของพวกเขาเองในอนาคต
การฝึกให้เด็ กมีระเบียบวินัย อาจทำได้โดยให้พวกเขาได้เรียนรู้ถึงผลกระทบจากการ
ที่ไม่ทำอะไรบางสิ่งบางอย่ าง
ซึ่งไม่ใช่การลงโ ทษ การที่พวกเขารู้ถึงผลที่จะเกิดขึ้นซึ่งเป็นผลดี
หรือผลเสี ยกับชีวิตของพวกเขาได้ด้วยตัวของพวกเขาเอง
“อย่ าหาทางลัดให้กับลูก ๆ”
บางครั้งเวลาที่เราเห็นลูกทำอะไรช้า เราก็อย ากที่จะช่วยเพื่อให้เร็วขึ้น
และดีขึ้น แต่เราควรที่จะเรียนรู้ให้พวกเขาได้ทำเองได้ฝ่ าฟั นอุ ปส รรค
และเรียนรู้การลงมือทำอะไรบ างอย่ างให้สำเร็จด้วยตัวเอง ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ
“สอนให้ลูกรู้จักคุณค่าที่แท้จริงของการมีชีวิต”
มนุษย์เราตัดสินใจกับเรื่องสำคัญต่างๆ ของชีวิตด้วยคุณค่ากับเรื่องที่เราควรสอนให้ลูกของเรา
มองเห็นคุณค่าในตัวเองเรียนรู้ที่จะรักษาคุณค่านั้น ๆ
เอาไว้
ขอบคุณข้อคิด คำสอนดีๆ จากแม่ทุกคน..
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น