ทำไม “เด็กหลังห้อง” มักได้ดี ตอนโตขึ้น… - HotNews

ทำไม “เด็กหลังห้อง” มักได้ดี ตอนโตขึ้น…

 

นักเรียนหลังห้อง เจ้าของเหรียญทองเรียน แ ย่ ไว้ผมทรงขัดใจแม่ มาเรียนก็สายประจำ…นับว่าเป็นบทเพลงที่สะท้อนความจริงในสังคมจริงๆ

ถ้าย้อนไปในสมัยเรียนมัธยม  เราต้องรู้จักกลุ่มเด็กกลุ่มหนึ่งที่มักจะจับจองที่ชิดผนังด้านหลังห้อง

หรืออยู่ท้ายๆ ห้องเพื่อจะให้รอดพ้นสายตาครูผู้สอน แม้จะมีการย้ายตำแหน่งให้เด้กกลุ่มนี้มาหน้าห้องแล้ว

พวกเขาก็จะกลับไปอยู่ที่เดิมอยู่ดีเชื่อว่าในตอนนั้นหลายๆคนรวมทั้งครูเองก็ต้องส่ายหน้า

กับพฤติกssมนอกกรอบที่ยากจะ เ ยี ย ว ย า

และด้วยความไม่สนใจโลก ไม่สนใจครูสอน  สอบตก เกรด แ ย่ ผลการเรียนไม่พัฒนา

จนหลายคนรวมทั้งอาจารย์ผู้สอนเองต่างคิดว่าอนาคตของเด็กกลุ่มนั้นต้องแ ย่แน่…

แต่ทว่า… มันไม่จริงแต่เคยสังเกตมั้ยว่า เพื่อนกลุ่มนี้แหละ ทำไมพวกเขาส่วนใหญ่ ถึงประสบความสำเร็จในชีวิตมากมาย

ไม่ว่าจะด้านการงานการเงิน ธุรกิจ สังคม หรือแม้กระทั่งด้านครอบครัว โดยมีตัวอย่างมาแล้วมากมาย

และนี่คือ 10 เหตุผลว่า ทำไมเด็กหลังห้องมักจะได้ดีหลังสำเร็จการศึกษา

1. เด็กหลังห้อง… “จะตั้งคำถาม ที่สวนทางกับการศึกษา” เพราะเขาเชื่อว่า

มีหลากหลายวิธีที่จะได้มาซึ่งความรู้และการเรียนรู้นอกกรอบมักจะทำให้เขาเรียนรู้ในมุมที่แตกต่าง

2. เด็กหลังห้อง… “จะไม่ยอมทำตามอะไรง่าย ๆ “

เพราะเขามักจะมีคำถามว่า “ทำไม” “ทำไม” “ทำไม” “ทำไมหรอ..” อย่างไม่มีสิ้นสุด

จนกระทั่ง…เขาจะได้คำตอบของคำถามจนพอใจ

3. เด็กหลังห้อง… “จะไม่ชื่นชมใครออกหน้า ออกตา”

แค่ เขาตระหนักว่าโลกทุกวันนี้เขาทำงานก็เพื่อตัวเขาเอง และทุกคนก็จะรับรู้ได้

4. เด็กหลังห้อง… “จะรู้ดีว่ามีเรื่องสำคัญให้เขาครุ่นคิดมากกว่าผลการเรียน”

เกรด A,B,C หรือ D เพราะสุดท้ายแล้ว การใช้ชีวิตในโลกแห่งความจริงสำคัญกว่า

5. เด็กหลังห้อง… “จะรู้ดีว่าหนทางความสำเร็จของแต่ละคนต่างออกกันไป”

เขาจะไม่ยอมให้ใคร มาออกแบบความสำเร็จของพวกเขา เพราะเขากระหายที่จะเรียนรู้รสชาติ

และสร้างความสำเร็จด้วยตนเอง

6. เด็กหลังห้อง… “รู้ว่าทำอย่างไรถึงจะดึงศักยภาพของคนอื่นออกมาใช้ได้”

ฉะนั้น เขามักจะมีเพื่อนมากมายและรู้ว่า เพื่อนแต่ละคน

มีจุดแข็งและจุดอ่อนตรงไหน

7. เด็กหลังห้อง… “ชื่นชอบ ที่จะแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง”

การที่มีคนมาคอยสอนและคอยบอกว่าต้องทำแบบนี้

ต้องทำแบบนั้นเป็นเรื่องที่น่าเบื่อหน่ายสำหรับพวกเขาเขาชื่นชอบการที่ออกไปค้นหาด้วยตนเอง พร้อมกับแรงบันดาลใจ

8. เด็กหลังห้อง… “ไม่ใช่คนที่สมบูรณ์แบบ”

เพราะเขาตั้งมั่นบนพื้นฐานของการเรียนรู้จากความผิดพลาดความสำเร็จ

ไม่ได้สวยงามเสมอไป ดังนั้นเขาจะไม่อายต่อการแสดงออกใดๆที่บางครั้ง อาจจะเป็นเรื่องที่

ทำให้คนอื่นหัวเราะเยาะเขา

9. เด็กหลังห้อง… “จะไม่ยอมเสียเวลากับเรื่องไม่เป็นเรื่อง”

เพราะเวลาและพลังงานเป็นสิ่งมีค่า เขามักเป็นคนที่พิถีพิถันกับต้นทุนของเวลา

และบริหารเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพและใช้มันได้อย่างคุ้มค่า

10. เด็กหลังห้อง… “ผู้เป็นนักช่างฝันในขณะที่เพื่อนกำลังจดจ่อกับวิชาที่คุณครูสอน”

ในหัวของเขากลับสนใจ สิ่งที่อยู่นอกห้องเรียนนั่นคือ ” ชีวิตจริง “

และความท้าทาย ที่จะต้องเจอในชีวิตอีกมากมายบทความนี้ไม่ได้บอกว่า เด็กหลังห้องจะจบออกมาได้ดีทุกคน

แต่มันยืนยันว่าสิ่งที่พวกเขาเป็นในวันนั้นไม่ได้ตัดสิน อนาคตของพวกเขาไม่ได้หมายความว่าพวกเขาไม่สนใจเรียน

ไม่สนใจกรอบแล้วชีวิตจะไม่เจริญ เมื่อความคิดของคนเราไม่เหมือนกัน

โอกาสไม่เหมือนกัน ความสำเร็จในชีวิต ก็แตกต่างกัน การจะตัดสินว่า “เด็กหลังห้อง” ต้องจบออกมาแบบไม่มีอนาคต

เราจึงอยากให้มองพวกเขาใหม่ และย้อนมามองระบบการศึกษาที่ครูพยๅยๅมยัดความรู้ ที่ไม่จำเป็นต่อบางคนลงไปในหัวของพวกเขา

แล้วใช้สิ่งที่เรียกว่าวุฒิบัตร มาเป็นตัวตัดสิน ว่าใครคู่ควรแก่องค์กร

เด็กที่มีความสามารถแต่ไม่ได้เก่งทุกทางก็ถูกตัดโอกาส ที่จะแสดงศักยภาพออกมา แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้พวกเขาที่เคยเป็นนักเรียนหลังห้องหยุด

แต่ตรงกันข้าม เขาทำทุกอย่าง เพื่อความสำเร็จโดยไม่ถูกตีกรอบจับนั่ง ในตำแหน่งบริษัท

ที่ถูกระบบการศึกษาโปรแกรมมา ให้จบออกมาเป็นมนุษย์เงินเดือน และนี่คือเหตุผลที่ว่า

ทำไม… “นักเรียนหลังห้อง” จึงได้ดี กว่านักเรียนหน้าห้องที่เรียนดีหลายๆคน

ออกแบบชีวิตให้ดีเริ่มต้นที่เราเอง ชีวิตที่ดีที่ทุกคนต้องการ

คือ ชีวิตที่มีความสุข ร่างกายดี จิตใจดี ความสัมพันธ์กับคนรอบข้างดี

และอยู่ในสังคมที่ดีอุปสรรคที่ทำให้เราแพ้ใจตัวเองคือความรู้สึกที่ฝืนเกินไป

อาจเพราะตั้งเป้าหมายที่ยากเกินไป เคี่ยวเข็ญตัวเองเกินไปจนเหนื่อย พลังใจแผ่วลง และเลิกล้มไปในที่สุด

ขอขอบคุณ t d a i l y

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น