คนที่รู้สึกเคว้ง รู้สึกแย่กับงานที่ทำ ลองถามตัวเอง 5 ข้อก่อนลาออก - HotNews

คนที่รู้สึกเคว้ง รู้สึกแย่กับงานที่ทำ ลองถามตัวเอง 5 ข้อก่อนลาออก

 

ในขณะที่ยังหาเหตุผลไม่ได้ ว่าทำไมเราถึงรู้สึกไม่สนุกกับการทำงาน เหมือนการทำงานในวันแรก เราก็ได้เลือกการลาออกเป็นทางออกสุดท้ายเสี ยแล้ว แต่ถ้าหากคิดให้ดี การตัดสินใจเช่นนี้ อาจจะไม่ใช่ทางออกที่ดีเสมอไป

เพราะงานในปัจจุบันค่อนข้างหาย าก และแข่งขันกันค่อนข้างสูง โดยเฉพาะประสบการณ์และ ความสามารถในการทำงาน อีกทั้ง ยังต้องอาศัยจังหวะเพื่อให้ได้งานที่ดี และตรงใจเราด้วยเช่นกัน หากตัดสินใจแบบเร่งด่วน งานดี ๆ ที่เราต้องการก็อาจจะไม่เป็นของเราก็เป็นได้

การตัดสินใจลาออกไม่ได้หมายความว่าโอกาสที่เราจะได้งานใหม่มีน้อยลง หรือสู้คนอื่น ๆ ไม่ได้ แต่ประสบการณ์และความผูกพันต่างหากที่ทดแทนกันไม่ได้ เพราะการต้องเริ่มต้นทำงานที่ใหม่ อาจจะเป็นอุปสรรคสำคัญในการทำงานอีกอย่างหนึ่งก็ได้

ดังนั้น ก่อนการตัดสินใจ ที่จะลาออก เราควรต้องคิดให้หนัก และใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ เพราะหากตัดสินใจผิดพลาดแล้ว เราอาจจะย้อนกลับมาแก้ไขได้ย าก โดยให้ลองตั้งคำถามเหล่านี้ กับตัวเองก่อน เพื่อให้ได้รู้ว่าจริง ๆ แล้วเราควรจะลาออกจากงานหรือไม่

1. หรือเป็นเพราะความไม่พอใจ

จริงหรือไม่ที่เรารู้สึกไม่พอใจ อะไรบางอย่างในที่ทำงาน เช่น เจ้านาย เพื่อนร่วมงาน หรือบริษัท จนทำให้เรารู้สึกไม่อย ากจะทำงานที่นี่ต่อไป แต่นั่นมีเหตุผลเพียงพอแล้วหรือ ที่ทำให้เราต้องตัดสินใจลาออก สิ่งต่าง ๆ ที่กล่าวมาจะดูมีเหตุผลและทำให้เราไม่สามารถทำงานได้อย่างมีความสุข

แต่ถ้าจริง ๆ แล้วยังมีความสุขกับการทำงานอยู่ เรายังรักงานที่เราทำอยู่ ไม่ว่าจะมีปัญหาอะไรก็ตามเราจะมองข้ามความไม่พอใจเหล่านั้น ไปได้หรือไม่ หากเราสามารถจัดการกับปัญหานี้ได้ การลาออกคงไม่ใช่ทางเลือกสำหรับเราอีกต่อไป

2. จัดสรรเวลาไม่ได้

เรารู้สึกว่าในแต่ละวัน ของการทำงาน เราทำงานยุ่งจนเกินไป จนไม่สามารถจัดสรรเวลาให้ลงตัวได้ ไม่สามารถแบ่งเวลาให้ครอบครัว ให้วันพักผ่อนวันหยุดตลอดเวลา เป็นเวลาของการทำงานไปเสียทั้งหมด แล้วในที่สุด ก็ตัดสินใจว่าจะลาออก

เผื่อว่างานใหม่จะทำให้เราสามารถบริหารเวลาได้ดีกว่านี้ เพราะคิดเอาเองว่าเพื่อเริ่มต้นใหม่ อะไร ๆ ก็คงจะง่ายและดีขึ้นกว่าเดิม การเริ่มต้นใหม่เป็นสิ่งที่ควรทำ แต่การลาออกก็คงไม่ใช่ ทางออกที่ดีนัก เพราะไม่มีสิ่งใดมารับประกันได้ว่า พอเราย้ายไปทำงานที่ใหม่ แล้วเราจะจัดการเรื่องเวลาได้ดีขึ้นกว่าเดิม

3. ไม่มีโอกาสก้าวหน้า

หากยังทำงานที่นี่ต่อไป ต่อให้ทำงานมาก ขนาดไหน เราก็ยังมองไม่เห็นโอากาสที่จะก้าวหน้า ไม่ได้เติบโตในหน้าที่การงานไปมากกว่าที่ทำอยู่ อาจจะถึงเวลาแล้วที่เราต้องมองหางานใหม่ ที่ทำให้เราประสบความสำเร็จในการทำงาน

แต่การเปลี่ยนงานใหม่ ในครั้งนี้ ก็ต้องรอบคอบให้มากกว่าเดิม เพื่อให้ได้งานที่เหมาะกับเราจริง ๆ ไม่ใช่เพียงเพราะรู้สึกว่ามันเป็นงานที่ดีกว่าเดิม เท่านั้น เงินเดือนและตำแหน่งงานใหม่อาจจะเป็นสิ่งที่เร้าใจเรา แต่เราต้องวิเคราะห์ให้ดีเสียก่อน ไม่เช่นนั้นแล้วเราก็อาจจะต้องมองหางานใหม่อีกครั้ง

4. มีตำแหน่งงานที่ดีกว่ารออยู่

บางครั้งเราอาจจะรู้สึกว่าชีวิต มักไม่เป็นอย่างที่เราคาดหวัง เรามักจะเจองานที่ถูกใจเมื่อเราได้งานที่ดีอยู่แล้ว แต่เราจะตัดสินใจอย่างไร เมื่องานใหม่ที่เสนอมาก็ถูกใจ และเป็นสิ่งที่เราอย ากจะทำก่อนที่เราจะได้งานที่นี่

แต่งานที่ทำอยู่ในปัจจุบัน ก็เป็นงานที่เราชอบมากเช่นกัน เมื่อมาถึงตอนนี้เราอาจจะต้องคิดให้มากขึ้นกว่าเดิมว่าจริงๆ แล้ว เราอย ากจะทำงานไหนมากกว่ากัน ความคุ้มค่าของการเปลี่ยนงานใหม่มีมากขนาดไหน หากเราไม่ลาออก เราจะได้ประสบการณ์อะไรเพิ่มจากการทำงานที่เดิม

5. เข้ากับเพื่อนร่วมงานไม่ได้

เราได้ตัดสินใจลาออก ทั้ง ๆ ที่เพิ่งเริ่มทำงานที่ได้ไม่เท่าไร เราเคยรู้สึกว่า นั่นคือการหนีปัญหา แต่ก็ดีกว่าต้องทนทำงานกับคนที่มีทัศนคติไม่ดีความคิดแบบนั้น อาจจะไม่ถูกต้องเสียทั้งหมด เพราะนั่นเท่ากับว่าเรากำลังทิ้งโอกาส หรือหน้าที่การงานที่ดีไป

แล้วเราก็ได้ตัดสินเพื่อนร่วมงานไปแล้ว ว่าเป็นคนไม่ดี ทั้งๆ ที่เพิ่งรู้จักกันเพียงไม่นาน หากเราจะลาออกด้วยเหตุผลเพียงเท่านี้ อาจไม่มีน้ำหนักมากพอ ให้เราเชื่อมั่นว่าเราจะทำงานได้ แม้ว่าเพื่อนร่วมงานจะ เล ว ร้ าย เพียงใดก็ตามเพราะบางครั้งเขาก็ไม่ได้มีส่วนสำคัญ ในการทำงานของเรามากเท่าใดนัก

ก่อนที่จะตัดสินใจลาออก เราอาจจะต้องพิจารณาให้ดีและ มีความรอบคอบมากขึ้น เพราะหากเราตัดสินใจผิดพลาด เราอาจต้องพลาดงานดี ๆ ไปอย่างง่ายดาย แต่หากได้คิดอย่างรอบคอบแล้ว

การเปลี่ยนงานเพื่อไปทำงานที่ดีกว่า ก็ถือเป็นโอกาสที่ดี เราจะได้เติบโตขึ้นในหน้าที่การงานที่ดีขึ้น แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามการทบทวนให้รอบคอบ ก็เป็นการดีที่เราจะไม่ตัดสินใจผิดพลาด

ขอขอบคุณ t h.j o b s d b

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น