เด็กที่ขาดความเชื่อมั่นในตนเองมักไม่กล้าเผชิญกับสิ่งแปลกๆ ใหม่ๆ หรือทำสิ่งใดๆ ที่ท้าทาย
เพราะกลั วความล้มเหลวหรือกลัวทำให้คนอื่นผิ ดหวัง สิ่งเหล่านี้ จะเป็นตัวถ่วงในการประสบความสำเร็จในอนาคตของลูกต่อไป
ศั ต รูของความเชื่อมั่นคือความท้อใจและความกลั ว ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่
ที่จะคอยช่วยเสริมแรงและให้กำลังใจลูกสามารถก้าวผ่านสิ่งที่ย ากๆ
ในอนาคตได้ ซึ่ง นาตาเรีย วอเธอร์ ได้เขียนแนะนำไว้มี 17 วิธีดังนี้
1.ให้ลูกฝึกแก้ปัญหาด้วยตนเอง
ถ้าหากคุณพ่อคุณแม่ช่วยแก้ปัญหาให้ลูกเสมอ
ลูกจะขาดทักษะในการพัฒนาด้านความเชื่อมั่น
ในการคิดแก้ปัญหาด้วยตนเอง เมื่อผู้ปกครองคอยช่วยเหลือตลอดเวลา
ลูกจะขาดวิธีรู้จักคิดแก้ปัญหาและความเชื่อมั่นในตนเองจะหมดไป นั่นหมายความว่า…
ยอมให้ลูกได้เกรด B หรือ C บ้ างแทนที่จะได้เกรด Aตลอดในขณะที่ลูกกำลังเรียนรู้ในการแก้ปัญหาในการทำงาน
2.ชื่นชมกับความพย าย ามของลูก
ไม่ว่าลูกจะแพ้หรือชนะ เมื่อเราโตมากขึ้นเราจะพบว่าระหว่างการเดินทางมีค่ามากกว่าจุดหมายปลายทาง
เมื่อลูกตั้งเป้าหมายเพื่อที่จะชนะในการทำกิจกร ร มบางอย่างแต่ต้องสะดุดล้มหรือพลา ด พ ลั้ ง
ไปไม่ถึงเส้นชัย ให้เราให้กำลังใจกับความพย าย ามของลูกนั้น อย่าทำให้ลูกรู้สึกอาย
เมื่อเขากำลังพย าย าม ผลดีในระยะย าวคือลูก
จะเรียนรู้ว่า ความพย าย ามช่วยสร้างความมั่นใจได้อย่างมากทีเดียว
3.กร ะตุ้ นความอย ากรู้อย ากเห็น
การตั้งคำถามที่ไม่จบไม่สิ้น อาจทำให้ลูกรู้สึกเหนื่อยและเบื่อหน่าย
แต่ความจริงแล้วไม่ควรเป็นอย่างนั้น ผู้ปกครองควรตั้งคำถามเพื่อช่วยส่งเสริมพัฒนาการของเด็ก
เพื่อลูกจะเรียนรู้ว่ามีหลายสิ่งหลายอย่างที่เรามองไม่เห็นในโลกนี้อีกมากมายที่เรายังไม่ได้เรียนรู้
สิ่งเหล่านี้จะกร ะตุ้ นให้ลูกมีความอย ากรู้อย ากเห็นมากขึ้น เด็กที่มาจากครอบครัวที่พ่อแม่ตั้งคำถามให้เสมอๆ
จะเรียนรู้ได้เร็วและดีกว่าเด็กที่พ่อแม่หาคำตอบให้ตลอดเวลา
4.ฝึกการให้กำลังใจเพื่อสร้างความสามารถ
ควรให้กำลังใจและเสริมแรงให้ลูกทำในสิ่งที่ลูกสนใจ
เพราะจะทำให้ลูกไม่รู้สึกกดดันมมากจนเกินไป
ฮาโมนี ชู นักเปียโนระดับโลกบอกในรายการทอล์กโชว์ของเอลเลน ว่า…
เธอฝึกเล่นเปียโนตั้งแต่ 3 ขวบ และเล่นได้ดีเพราะได้รับกำลังใจจากครอบครัว
การฝึกความพย าย ามจะสร้างความเชื่อมั่นในการพัฒนาตนเองตามมา
5.ไม่วิพ ากษ์วิจารณ์การแสดงออกของลูก
ไม่มีสิ่งไหนที่ทำให้ลูกท้อใจเท่ากับการวิพ ากษ์วิจารณ์ลูกในความพย าย ามของเขา
การให้คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะสามารถทำได้บ้ าง แต่อย่ าบอกว่าลูกทำกิจกรรมนี้ได้แ ย่จริงๆ
ถ้าลูกกลั วที่จะล้มเหลวเพราะกังวลว่า จะทำให้เราโกรธหรือผิ ดหวัง ลูกจะไม่กล้าทำสิ่งใหม่
การที่พ่อแม่วิพากษ์วิจารณ์ลูกบ่อยๆ จะทำให้ลูกรู้สึก
หมดคุณค่าในตัวเองและหมดแรงจูงใจด้วย
6.ให้ลูกแสดงพฤติกรรมตามวัย
ไม่ควรมีความคาดหวังให้ลูกแสดงพฤติกร ร ม เหมือนผู้ใหญ่
เมื่อลูกรู้สึกว่า ต้องแสดงพฤติกร ร ม ที่เหมาะสมและถูกต้องตามที่พ่อแม่กำหนดเท่านั้นจะทำให้เห็นถึง
มาตรฐานที่เป็นไปไม่ได้และจะไปลดความพย าย ามที่ลูกทำอยู่
การตั้งมาตรฐานที่ลูกไม่สามารถไปถึงได้จะลดความเชื่อมั่นของลูกลง
7.เปิดประตูสู่ประสบการณ์ใหม่ๆ
ในฐานะผู้ปกครองเราควรช่วยเปิดโอกาสให้ลูกมีประสบการณ์ในโลกกว้างมากขึ้น
เพื่อเปิดโลกทัศน์ในการเรียนรู้ การเปิดประสบการณ์ให้ลูกจะสอนให้ลูกรู้ว่า…
ไม่ว่าจะเจอประสบการณ์ซึ่งน่ากลั วที่เราไม่เคยเผชิญมาก่อนเราก็จะสามารถฝ่าฟั นและเอาชนะมันได้
8.ให้ลูกลองสิ่งท้าทายใหม่ๆ
แสดงให้ลูกเห็นเป้าหมายที่เป็นความสำเร็จเล็กๆ
เพื่อไปสู่ความสำเร็จของเป้าหมายใหญ่ๆ เช่น ขี่จักรย านโดยไม่ใช้ล้อเล็กฝึกการช่วยขี่
คุณพ่อคุณแม่สามารถสร้างความมั่นใจในตัวลูกเพิ่มขึ้นได้จากความรับผิดชอบตามวัย
9.หลีกเลี่ ย งการซิกแซก
หรือ มี ข้ อย ก เ ว้นให้ลูกเสมอ การให้สิทธิพิเศษทำให้ลูกข าดความเชื่อมั่น
10.ให้กำลังใจลูกเมื่อลูกเผชิ ญ ความทุกข์ย ากลำบาก
ในชีวิตนั้นไม่มีความยุติธรรมและไม่มีอะไรที่ง่ายเสมอไปซึ่งลูกต้องเรียนรู้เข้าสักวันใดวันหนึ่ง
เมื่อเราเผชิญกับความย ากลำบาก คุณพ่อคุณแม่ควรชี้ให้เห็นว่า…
เมื่อเราทนต่อความย ากลำย ากได้จะช่วยสร้างให้เราปรับตัวในการรู้จักยืดหยุ่นต่อสถานการณ์ต่างๆ ได้
คุณพ่อคุณแม่ควรอธิบายให้ลูกฟังว่าทุกถนนสู่ความสำเร็จ จะต้องเผชิญกับขวากหนามบ้ างอะไรบ้ าง
11.ทำความล้มเหลวให้เป็นเกาะที่สร้างฐานการเรียนรู้
การเรียนรู้จากข้อผิ ด พ ลาดช่วยสร้างความมั่นใจ
แต่นั่นจะเกิดขึ้นได้เมื่อคุณพ่อคุณแม่ทำข้อผิ ด พ ลาดเป็นโอกาสที่จะเรียนรู้เติบโตและก้าวไป
อย่ าปกป้องลูกมากเกินไป ยอมให้ลูกล้มเหลวบ้ างบางครั้งบางคราว
เพื่อช่วยให้ลูกเกิดความเข้าใจ และมีการวางแผนที่ดีขึ้นในครั้งหน้า คุณพ่อคุณแม่ควรเปิดโอกาสให้ลูกเรียนรู้จากข้อผิ ด พลาด
12.ชมเชยในความกล้าหาญเมื่อลูกเริ่มลองสิ่งใหม่
ไม่ว่าจะเป็นการเข้าทีมบาสเกตบอลหรือการลองเล่นโรลเลอร์สเก็ต ผู้ปกครองควรที่จะชมและให้กำลังใจเมื่อลูกทำสิ่งใหม่ๆ
โดยพูดคำชมง่ายๆ เช่นเก่งมากที่กล้าลองสิ่งใหม่ๆ
ความสบายมาจากการที่เราติดยึดกับสิ่งเก่าๆ
แต่ความกล้าหาญมาจากการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ที่แตกต่างจากเดิม
13.สอนลูกว่าหากจะทำให้สำเร็จต้องรู้อะไรบ้ าง
คุณพ่อคุณแม่เป็นฮีโร่ในใจของเด็กๆจนกระทั่งลูกเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น
ใช้โอกาสนั้นสอนลูกให้รู้จักวิธีการคิด การแสดงและการพูด เป็นตัวอย่างและแบบอย่างที่ดีให้แก่ลูก
การที่ลูกเฝ้าดูความสำเร็จของเราแสดงให้เห็นว่าเขาสามารถประสบความสำเร็จได้เช่นเดียวกัน
14.อย่ าบอกลูกเมื่อเรามีความกังวลใจกับลูก
ผู้ปกครองที่กังวลใจมักแปลความหมายได้ว่า…
ไม่เชื่อมั่น การแสดงความมั่นใจของผู้ปกครองจะส่งผลต่อความมั่นใจของเด็กด้วย
15.ฉลองความตื่นเต้นในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
เด็กๆ มองดูและเรียนรู้ว่า พ่อแม่รู้สึกอย่างไรต่อสิ่งต่างๆที่เกี่ยวกับเขา
ถ้าเราตื่นเต้นกับวิธีการว่ายน้ำ หรือการพูดภาษาใหม่ๆ เด็กๆ ก็จะรู้สึกตื่นเต้นด้วย การเรียนรู้
เป็นสิ่งที่ย ากและหากทำให้ประสบความสำเร็จ จะช่วยสร้างความมั่นใจให้เพิ่มมากขึ้น
ดังนั้นการฉลองความสำเร็จช่วยให้ลูกโตขึ้น
16.คุณพ่อคุณแม่เสนอตัวที่จะเข้าช่วยเหลือและสนุบสนุน
แต่ต้องไม่มากจนเกินไป การให้ความช่วยเหลือที่มากเกินไปและเร็วเกินไปจะลดความสามารถในการช่วยเหลือตัวเองของลูก
ควรให้ลูกช่วยเหลือตัวเองก่อน เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ลูกมากขึ้น
17.เป็นผู้ปกครองแบบเข้าใจลูก
ไม่บังคับหรือเข้มงวดจนเกินไป หากเราเข็มงวดกับลูกมากเกินไป
จะทำให้ลูกขาดความมั่นใจและลดความเชื่อมั่นลง
การทำตามคำสั่งตลอดเวลาจะทำให้ลูกขาดความกล้าการสร้างลูกให้มีความเขื่อมั่นจะทำให้ลูก
เป็นคนสร้างสรรค์และกล้าพูดคำว่า “ไม่ได้” ต่อสิ่งที่ไม่ถูกต้องเช่น กล้าปฏิเสธต่อผู้ที่มาหยิบยื่นสิ่ง
เ ส พติ ดต่างๆให้ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ต้องยอมให้ลูกรู้จักลองผิดลองถูกเพื่อสร้างลูกให้เป็นคนดีและคนเก่งในอนาคต
เป็นกำลังใจให้ทุกครอบครัวเสมอค่ะ
ขอบคุณที่มา : m g r o n l i n e.c o m
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น