มีเด็กน้อยคนหนึ่ง..ซึ่งเป็น ลูกชาย มีสีหน้าที่แสดงอารมณ์ไม่ค่อยจะดีนัก
นั่งรอพ่อเลิกงานด้วยใจจดใจจ่อ ลูกชาย นั่งรออยู่สักพัก
กว่าพ่อจะเสร็จจากงาน ถึงบ้านก็เกือบสามทุ่มเข้าไปแล้ว
พ่อเดินเข้าบ้านที่ดูเงียบเหงา…โดยมี ลูกชาย รออยู่หน้าบ้าน
เนื่องจาก ภรรย า เ สี ย ชี วิตไปเมื่อปีกลายทิ้งลูกชายคนเดียวไว้กับเขา
ให้หาเลี้ยงลูกตามลำพัง ดีว่าเจ้าหนูน้อยพอจะช่วยตัวเองได้บ้าง
อาหารก็กิน อาหารปิ่นโต ที่ผูกประจำ หากินเองได้ทำให้ ไม่เป็นภาระพ่อมากมายนัก
เข้ามาในบ้าน เหงื่ออาบแก้มยังไม่ทันได้พัก ผู้เป็นพ่อเห็นหน้าลูกชายวัยซน
ที่รอรับเอ่ยปาก ทัก.!!
“พ่อครับวันนี้ทำงานเหนื่อยมั้ยครับ”
“เหนื่อยสิ ลูกแล้ววันนี้ทำการบ้านเสร็จ แล้วเหรอ”
ผู้เป็นพ่อตอบเนือยๆ พร้อมกับถามต่อ ด้วยความเคยชิน
“เสร็จหมดแล้วครับ คือ ผม มีเรื่องบางอย่างอยากจะถามพ่อน่ะ พ่อว่างหรือยังครับ”
ลูกชายตัวน้อย ถาม ต่อ..
“เดี๋ยว พ่อจะไปอาบน้ำ หาข้าวกินข้าวซักหน่อย แล้วคงจะเข้านอนวันนี้เหนื่อยเหลือเกิน”
“ว่าแต่.. แก จะถามอะไรพ่อเหรอ?”
(ผู้เป็นพ่อถามด้วยน้ำเสียงอ่อนล้า)
“คือผมอยากรู้ ว่า… พ่อทำงานได้ ค่าจ้างวันละเท่าไรครับ”
(ลูกชาย ถามด้วยน้ำ เสียงใสซื่อ)
เค้าหันมามองหน้าลูกชาย พร้อมกับขมวดคิ้วด้วยความสงสัย แล้วตอบไปว่า..
“วันล่ะ สี่ร้อย”
“งั้นผม ขอยื ม ตั ง ค์ พ่อ ซักสองร้อยได้ มั้ยครับ”
ลูกชายตัวน้อยเอ่ยปากด้วยสายตา วิ ง ว อ น
“หา แกว่าไง…นะ! ผู้เป็น พ่อ ขึ้นเสียงด้วยอารมณ์ขุ่นมัว ก่อนที่จะหันมาพูดกับลูกชายด้วยเสียงเข้มขึ้นกว่าเดิม
นี่ฟังนะ แกคิดว่า… เงินทอง หาได้ง่ายๆ เหรอ
กว่าพ่อจะได้เงิน สี่ร้อย บาทต้องทำงานเหนื่อยตั้งแต่เช้ายันค่ำ..
แต่..พอกลับมาถึงบ้าน เจอแกรอขอยืมเงินพ่อง่ายๆ แบบนี้นี่นะ
แกลองไปคิดดูให้ดีสิว่า.. แกทำประโยชน์อะไรให้พ่อบ้าง..
พ่อถึงจะต้องให้ เงินสองร้อยนี่ให้แกยืม”
เด็กชายยืนนิ่ง มองหน้าพ่อ ไม่มีเสียงออกจากปากแต่…น้ำตาไหลซึมลง
อ า บ ร่ องแก้มทั้ง สองข้าง ก่อนที่จะหันหลังเดินกลับห้องอย่างซึมเซา
หลังจากพ่อเขาอาบน้ำเสร็จ หาข้าวปลากินเรียบร้อย
เขาเดินไป ที่ระเบียง ความรู้สึกเคร่งเครียดที่ได้รับมาจากงานนอกบ้าน เริ่มผ่อนคลาย
(นั่งคิดไป ถึงอดีตที่ผ่านและงานวันนี้)
แล้วก็ย้อนกลับคิดไปถึงลูกชายตัวน้อย ลูกเป็นเด็กดี ไม่เคยเกเร
ไม่เคยเอ่ยปากขอเงินเพิ่ม.. นอกจากเงินค่าขนมที่พ่อให้ ประจำวันเท่านั้น
แต่วันนี้ทำไม ถึงเอ่ยปากยืมเงิน เมื่อสักครู่…เรา(พ่อ)เหนื่อยเกินไป
หรือเครียดเกินไปหรือป่าว ถึงได้ใช้อารมณ์กับ ลูกไปอย่างนั้น
เมื่อได้คิด แล้วเดินไปที่ห้องลูกชาย ไฟในห้องนอนดั บ แล้ว
เมื่อเปิดประตูเข้าไป เอื้อมมือเปิดไฟในห้อง หนูน้อยนอนตะแคง
หน้าตายังคงลืมจ้องมองมาที่ประตู แก้มที่แนบกับหมอน ชุ่มด้วย น้ำตา
พร้อมเสียงสะอื้นเบาๆอยู่คนเดียว พ่อเดินไปนั่งที่ขอบเตียงมือลูบผม ลูกชายเบาๆ
พร้อมกับเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเครือ จุกคอ
“พ่อขอโทษนะลูก เมื่อกี้…พ่อเหนื่อยมามากเลยใช้อารมณ์กับลูกมากไปหน่อย
จริงๆตะกี้พ่อไม่ได้ถามลูกด้วยซ้ำว่า..ลูกอยากยืมเงินพ่อไปทำไม
ลูกอาจจะมีเหตุจำเป็นที่จะต้องใช้เงินก็ได้ เงินแม้ว่าจะหาได้ลำบาก
ไม่ได้มาง่ายๆ แต่ถ้าลูกมีเหตุผลเพียงพอพ่ออาจจะให้ยืม ก้อได้
เพราะว่า..ลูกน่ะ สำคัญสำหรับพ่อเหนือ สิ่งอื่นใดและพ่อรักลูกจ้ะ
ว่าแต่..ไหน ลูกลองบอกพ่อสิว่า…ลูกอยากยืมเงินสองร้อยไปทำอะไร…?”
ผู้เป็นพ่อถามลูกชายที่มองหน้าพ่อนิ่ง ด้วยน้ำเสียงปราณีเต็มเปี่ยมด้วยความรัก
ลูกชายตัวน้อยส่งเสียงสะอื้นจากลำคอ..
“พ่อครับ ตั้งแต่แม่เสี ย ผมเห็นพ่อต้องทำงานหนักเพื่อหาเงินทุกวัน
จนไม่ได้พัก ไม่ได้อยู่กับผมเลย เราแทบไม่มีเวลาได้อยู่ด้วยกัน
ผมเลย ค่อยๆเก็บค่าขนมของผมไว้ ตลอดมาจนถึงตอนนี้
ผมเก็บได้สองร้อยบาทแล้ว แต่พอผมรู้จากพ่อ ว่า…
พ่อทำงานได้ ค่าจ้างวันล่ะสี่ร้อย ผมจึงอยากยืมพ่อเพิ่มอีกสองร้อย
ให้เป็นสี่ร้อย เพื่อจะได้เป็นค่าจ้างให้พ่อได้พัก ได้อยู่กับผม ซักวันนึง ครับ”
พอพ่อได้ยินแบบนั้นแล้ว น้ำตาก็ไหลพากอาบลงข้างแก้มทั้งสองข้าง
แล้วก็โผล่ตัวเข้ากอดลูกน้อย ด้วยความรู้สึกผิด…
” เงินทอง อาจสำคัญ และจำเป็นต่อการดำเนินชีวิต แต่ครอบครัว ยังคงต้องการความรักความอบอุ่น และ เวลาที่มีให้กัน อย่าห่วงงานจนลืมครอบครัว และคนที่คุณรัก “
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น