ครอบครัว ขาดพ่อเหมือน “ถ่อหัก” ขาดแม่เหมือน “แพแตก” - HotNews

ครอบครัว ขาดพ่อเหมือน “ถ่อหัก” ขาดแม่เหมือน “แพแตก”

 

ครอบครัว ขาดพ่อเหมือนถ่อหัก ขาดแม่เหมือนแพแตก (สละเวลาอ่าน…ก่อนจะสายเกินไป)

วันนี้ลูกๆหลายคน อาจจะกำลังอยู่กับพ่อกับแม่ ใน ครอบครัว ที่แสนสุข

ในอ้อมกอดที่อบอุ่นของแม่ ในการเลี้ยงดูเอาใจใส่เป็นอย่างดีจากแม่

ทุกข์สุขของครอบครัว จะขึ้นอยู่กับบุคคลสองคน คือพ่อและแม่ ที่จะปั้นแต่งให้ลูก

ทั้งความสุขและทุกข์ ของทุกชีวิตในครอบครัว ก็ล้วนขึ้นอยู่กับการวางตัว

ของพ่อแม่ในครอบครัวนั้นทั้งสิ้น เราทุกคนต่างก็เกิดมาในครอบครัวเหมือนๆ กัน

แต่ทำไมบางครอบครัวดูจะมี “คุณภาพ” มากกว่าครอบครัวอื่น

อยากได้อะไรมีแม่คอยจัดหาให้..

อยากกินอะไรมีแม่คอยหามาให้กิน

อยากเที่ยวที่ไหนแม่ก็พาไปเที่ยว..

อยากเรียนอะไรแม่ก็ส่งเสียให้เรียน

อยากทำอะไรแม่ก็คอยส่งเสริมสนับสนุนให้ทำอยู่ตลอดมา

และลูกๆหลายคนได้รับความสุข สะดวกสบาย สมบูรณ์พูนสุขในทุกๆ ด้าน

ไม่ว่าจะเป็นด้านชีวิต ความเป็นอยู่ที่สุขสบาย เงินทองที่ใช้จ่ายได้ตามใจปรารถนา

พร้อมทั้งการศึกษาที่ดี ในสถาบันที่มีชื่อเสียง ความสมบูรณ์ ความสุขสบาย

ที่ลูกได้รับอย่างสุขเกษมเปรมปรีดทุกวันนี้ได้มาจากใคร…

หากพรุ่งนี้ไม่มีแม่… โบราณว่า “ขาดพ่อเหมือนถ่อหัก ขาดแม่เหมือนแพแตก”

ชีวิตของลูก คงกระจัดกระจายไร้ทิศทาง ไร้อนาคต ไร้การศึกษากลายเป็นเด็กมีปัญหา

เป็นภาระของสังคม คงต้องทุกข์ทรมานอย่างหาประมาณมิได้

หากเปรียบชีวิตเหมือนการข้ามฝั่ง ในแม่น้ำที่ไหลเชี่ยวกรากเต็มไปด้วยอั น ต ร า ย รอบด้าน

ซึ่งต้องอาศัยแพ และไม้ถ่อข้ามฝั่งเพื่อไปสู่เป้าหมายอย่างปลอดภัย

หากเปรียบไปก็เหมือนพ่อกับแม่ ถ่อเปรียบเสมือนพ่อ แพเปรียบเสมือนแม่

ถ้าถ่อหักก็ยังสามารถใช้มือ หรือเท้าพายแทน แต่ก็ต้องทุลักทุเลพอควร

มีโอกาสถึงฝั่ง 50-50 แต่หากแพต้อง แ ต กหรืออับปางกลางแม่น้ำ

โอกาสที่จะถึงฝั่ง ก็คงลางเลือนและริบหรี่เต็มประดาอาจต้องจม น้ำต าย

หรือเป็นอาหารของ สั ต ว์ ร้ า ย ได้ เปลวเทียนละลายแท่ง เพื่อเปล่งเสียงอันอำไพ

ชีวิตมะลายไปเหลือสิ่งใดไว้ทดแทน หากเปรียบเทียนที่จุดขึ้นเหมือนกับชีวิตแม่ของเรา

เทียนเล่มนี้ มันส่องแสงให้มากเท่าใด ลำเทียนเองก็จะสั้นลง ๆ

คล้ายดังชีวิตแม่ ที่ให้ลูกมากแค่ไหน อายุของแม่ก็จะสั้นลง ๆ อายุที่ได้มาก็คือ..

เวลาที่เสียไป ยิ่งลูกมีความเจริญรุ่งโรจน์มากขึ้นเท่าใด ชีวิตแม่ก็ยิ่งแก่ลงและหดหาย

ลงไปเท่านั้น บางครั้งก็ริบหรี่ ไม่ก็ดั บ แล้วน้ำตาเทียนก็ไหลหยดย้อยเหมือนหยาดน้ำตา

ของผู้เป็นแม่ของเรา ในที่สุดเทียนที่จุดขึ้นก็จะเหลือเพียงไส้ดำๆ วาร ะสุดท้ายของแม่เรา

ก็จะเป็นอย่างนี้ แม่จะเหลือเพียงกระดู กที่เป็นเถ้าถ่าน ให้ลูกน้อยไปรับที่เชิงตะกอน

หากพรุ่งนี้ไม่มี..แม่ ?

แม่…ผู้ให้ทุกสิ่งทุกอย่างแก่ลูก

แม่…ผู้ยอมอดเพื่อให้ลูกอิ่ม

แม่…ผู้ที่ยอม ทุ ก ข์ เพื่อให้ลูกสุข

แม่…ผู้ที่ยอมลำบากเพื่อให้ลูกสบาย

แม่…ผู้ที่ยอมต ายเพื่อให้ลูกมีชีวิตอยู่

แม่…ผู้ที่รักเป็นห่วงเป็นใยและเฝ้าถามลูกอยู่เสมอ เหนื่อยไหมลูก หิวไหมลูก?

ลูกอ ย า กทานอะไร?

ลูกอยากได้ อะไรบอกแม่มา…แม่จัดให้?

แล้วลูกละ เคยถามแม่บ้างหรือ เ ป ล่ า?

ลูกบางคน ย า ม แม่มีชีวิตอยู่ ไม่เคยเลยที่จะรักษาน้ำใจท่าน

ไม่เคยเลยที่จะเลี้ยงดูใจท่าน ทำให้ท่านสบายอกสบายใจ

ท่านได้เรามาเป็นลูกรู้ไหมท่านดีใจมากขนาดไหน? เรารักสิ่งใด เราจะถนอมสิ่งนั้น

รักษาสิ่งนั้น แล้วมันจะอยู่กับเรานาน ถ้าเรารักแม่ ต้องถนอมน้ำใจท่าน รักษาใจท่าน

“รักใดไหนเล่าเท่าแม่รัก เป็นรักที่บริสุทธิ์ใจ เป็นรักที่ยิ่งใหญ่เป็นรักที่แท้จริง อันรักใดไหนเล่า เท่ารักลูก”

ถ้าวันนี้ไม่แสดงความกตัญญูต่อท่าน อาจจะไม่มีโอกาสไม่ต้องอายในการทำความดี

มีอะไรช่วยท่านได้ช่วยเลยอย่านิ่งดูดาย เพราะเราสามารถมีแม่ได้เพียงคนเดียวเท่านั้นในโลกนี้

คิดไว้เสมอ หากพรุ่งนี้ไม่มี…แม่

” ในวันนั้นที่ลูกมีความทุกข์  แม่ช่วยปลุกแรงใจให้เข้มแข็ง
ทำให้ลูกก้าวไปไม่อ่อนแรง  รักแสนแพงล้ำค่าแม่รักเรา
ในวันนี้ที่ลูกมีความสุข  แม่หมดทุกข์ปลื้มใจให้สุขสันต์

ทำเพื่อลูกปลูกรักตลอดชีวัน  รักแม่นั้นพันผูกลูกรักแม่ “

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น